การพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่และแนวทางการขับเคลื่อนเกษตรกรรมไทยในภาคกลาง


นาวิน โสภาภูมิ


ภาคเกษตรกรรมไทยกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายเชิงโครงสร้างที่สำคัญ อันเนื่องมาจากการลดลงของจำนวนเกษตรกรรุ่นใหม่ และการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของเกษตรกรสูงอายุ ปรากฏการณ์นี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความยั่งยืนและศักยภาพในการแข่งขันของภาคเกษตรไทยในระยะยาว Think Forward Center และ คณะทำงานพรรคประชาชนจังหวัดชัยนาท ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ YSF X PPP วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ร่วมกับตัวแทนเกษตรกรรุ่นใหม่ในพื้นที่ภาคกลาง (YSF) หลายจังหวัด  เพื่อระดมความคิดเห็นต่อการพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่และการพัฒนาการเกษตรของภาคกลาง บทความนี้นำเสนอเนื้อหาที่ได้จากการระดมความคิดเห็นจากการประชุมดังกล่าว พร้อมชี้ข้อมูลสถานการณ์ปัจจุบันของเกษตรกรรุ่นใหม่ โดยเน้นพื้นที่ภาคกลาง รวมทั้งนำเสนอบทบาทของเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmers: YSF) และแนวทางการพัฒนาการเกษตรในภาคกลาง เพื่อเป็นแนวทางในการกำหนดนโยบายและขับเคลื่อนภาคเกษตรกรรมไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง


1. สถานการณ์เกษตรกรไทย

ข้อมูลปัจจุบันชี้ให้เห็นว่า เกษตรกรรุ่นใหม่ (อายุไม่เกิน 45 ปี) ทั่วประเทศมีจำนวนประมาณ 1.4 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 16-17 ของเกษตรกรทั้งหมด โดยกลุ่มผู้มีอายุต่ำกว่า 25 ปี มีน้อยกว่าร้อยละ 1 ในขณะที่กลุ่มอายุ 25-34 ปี มีร้อยละ 4 และกลุ่มอายุ 35-44 ปี มีร้อยละ 12 สวนทางกับสัดส่วนเกษตรกรสูงอายุที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มอายุ 55-64 ปี คิดเป็นร้อยละ 30 และกลุ่มอายุ 65 ปีขึ้นไป คิดเป็นร้อยละ 28 และคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า เกษตรกรไทยร้อยละ 60-70 จะมีอายุมากกว่า 55 ปี

สำหรับภาคกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมสำคัญของประเทศ สถานการณ์มีความคล้ายคลึงกัน คือ มีเกษตรกรรุ่นใหม่ประมาณเกือบ 200,000 คน (ร้อยละ 17 ของเกษตรกรในภาคกลาง) และคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า เกษตรกรมากกว่าครึ่งหนึ่งในภาคกลางจะมีอายุเกิน 60 ปี ที่น่ากังวลคือ สัดส่วนเกษตรกรรุ่นใหม่ในภาคกลางลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จากร้อยละ 37 ในปี พ.ศ. 2546 เหลือเพียงร้อยละ 16 ในปี พ.ศ. 2566 และมีแนวโน้มลดลงต่ำกว่าร้อยละ 10 ในอีก 10 ปีข้างหน้า หากไม่มีมาตรการแทรกแซง



ความท้าทายหลักของเกษตรกรรุ่นใหม่ โดยเฉพาะในภาคกลาง คือ การเป็นเกษตรกรรายย่อย ซึ่งร้อยละ 60-90 ถือครองที่ดินน้อยกว่า 20 ไร่ ส่งผลให้มีรายได้ต่ำ โดยเกษตรกรที่มีที่ดินน้อยกว่า 20 ไร่ส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อปี ซึ่งไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพและพัฒนาคุณภาพชีวิต



2. ข้อเสนอบทบาทของเกษตรกรรุ่นใหม่ YSF กับการพัฒนาการเกษตรไทย

เกษตรกรรุ่นใหม่ (YSF) ถูกมองว่าเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภาคเกษตรไปสู่อนาคต โดยมีบทบาทครอบคลุมตลอดห่วงโซ่มูลค่าการเกษตร ตั้งแต่การเป็นผู้ผลิต ผู้บริหารจัดการปัจจัยการผลิตและผู้ให้บริการเครื่องจักรกลการเกษตร, ผู้ดำเนินการผลิตที่มีประสิทธิภาพในฟาร์ม, ผู้แปรรูปผลผลิตเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม, ผู้รวบรวมและจัดการผลผลิต ไปจนถึงผู้วางแผนและดำเนินการทางการตลาด



2.1 บทบาทของเกษตรกรรุ่นใหม่ YSF ในการพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่

YSF สามารถมีบทบาทในการสร้างแรงบันดาลใจและปรับทัศนคติให้คนรุ่นใหม่เห็นว่าเกษตรกรรมเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้ ไม่ใช่งานหนักที่รายได้น้อย โดย YSF ที่ประสบความสำเร็จสามารถเป็นต้นแบบและผู้ถ่ายทอดความรู้ (Influencer) นอกจากนี้ YSF ยังสามารถเป็นพี่เลี้ยงในการพัฒนาทักษะที่จำเป็น เช่น การบริหารจัดการฟาร์ม การวางแผนการเงิน การตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย และการเชื่อมโยงแหล่งเงินทุน (เช่น ธ.ก.ส.) รวมถึงการสร้างโอกาสในการทดลองตลาด เช่น การออกร้านในงานประจำปี หรือ OTOP เป้าหมายคือการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สามารถเริ่มต้นธุรกิจเกษตรและประสบความสำเร็จได้จริง


2.2 บทบาทของเกษตรกรรุ่นใหม่ YSF ในการพัฒนามาตรฐานฟาร์ม

YSF สามารถเป็นผู้นำในการยกระดับมาตรฐานฟาร์ม ผ่านการประยุกต์ใช้เครื่องมือและองค์ความรู้ในการควบคุมคุณภาพผลผลิตและลดต้นทุน เช่น การใช้เครื่องมือตรวจวัดคุณภาพดิน (“หมอข้าว”) เพื่อทราบความต้องการธาตุอาหารของพืชและใช้ปุ๋ยอย่างแม่นยำ การตรวจโรคและธาตุอาหารที่พืชต้องการผ่านแอปพลิเคชัน (เช่น Dragon Fly) การใช้เมล็ดพันธุ์คุณภาพดีที่ผ่านการตรวจสอบ (เช่น ด้วย AI Scanner) และการทำฟาร์มตามมาตรฐาน (เช่น GAP, Organic, GI) YSF ที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องเหล่านี้ จะสามารถลดการใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงที่ไม่จำเป็น ลดต้นทุน และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ ตรงตามความต้องการของตลาดและสามารถแข่งขันได้


2.3 บทบาทของเกษตรกรรุ่นใหม่ YSF ในการใช้สารสนเทศและดิจิทัลการเกษตรเพื่อเพิ่มผลิตภาพการผลิต

YSF สามารถเป็นผู้ใช้และผู้เผยแพร่การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยมีข้อเสนอให้พัฒนาแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันกลางที่รวบรวมข้อมูลการเกษตรที่กระจัดกระจาย เช่น ข้อมูลดิน น้ำ สภาพอากาศ ราคาตลาด แหล่งบริการ เครื่องจักรกล เครือข่าย YSF ข้อมูลจากภาครัฐและงานวิจัย เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงได้ง่ายและนำไปใช้วางแผนการผลิต แพลตฟอร์มนี้ควรมีฟังก์ชันเชื่อมโยงการสื่อสารระหว่างเกษตรกร และอาจมี “แอดมินเดินดิน” หรือทีมสนับสนุนภาคสนามเพื่อให้คำแนะนำและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล YSF ที่เชี่ยวชาญด้านนี้จะสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจในการผลิตได้อย่างแม่นยำ ลดความเสี่ยง และเพิ่มผลผลิต


2.4 บทบาทของเกษตรกรรุ่นใหม่ YSF ในการส่งเสริมและพัฒนาตลาดสินค้าเกษตร

YSF มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงผลผลิตสู่ผู้บริโภคและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเริ่มต้นจากการสร้างอัตลักษณ์สินค้า (Product Identity) การโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางดิจิทัล การติดตามผลตอบรับ การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า และการขยายสู่ตลาดส่งออก YSF สามารถเป็นผู้นำในการทำการตลาดออนไลน์เพื่อลดบทบาทของคนกลางและเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรโดยตรง นอกจากนี้ YSF ยังสามารถรวบรวมผลผลิตที่มีคุณภาพจากเครือข่าย และพัฒนาตนเองเป็นผู้ประกอบการ/ลังไทย เพื่อแข่งขันในตลาดส่งออก



3. การพัฒนาการเกษตรในภาคกลาง

สำหรับการพัฒนาการเกษตรในภาคกลางจำเป็นต้องอาศัยการแก้ไขปัญหาที่สำคัญควบคู่ไปกับการส่งเสริมศักยภาพของ YSF โดยมีแนวทางดังนี้



3.1 การลดการเผาในพื้นที่การเกษตร

ปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน YSF สามารถมีบทบาทในการส่งเสริมวิธีการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่ไม่ใช่การเผา เช่น การไถกลบตอซังและฟางข้าว การทำปุ๋ยหมัก การอัดฟางหรือใบอ้อยเพื่อจำหน่ายหรือใช้ประโยชน์อื่น โดยภาครัฐควรสนับสนุนเครื่องจักรกลที่จำเป็น งบประมาณ และองค์ความรู้ รวมถึงการหาตลาดรองรับผลิตภัณฑ์จากการแปรรูปเหล่านี้


3.2 การลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร

YSF สามารถเป็นผู้นำในการนำเทคโนโลยีและองค์ความรู้มาใช้เพื่อลดต้นทุนการผลิต เช่น การวิเคราะห์ดินเพื่อการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ การใช้เครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อลดการพึ่งพาแรงงาน การเลือกใช้เมล็ดพันธุ์ดีมีคุณภาพและราคาเหมาะสม การนำเกษตรอัจฉริยะและพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ ภาครัฐควรสนับสนุนการเข้าถึงบริการวิเคราะห์ดิน ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี และพิจารณากฎหมายควบคุมราคาปัจจัยการผลิตให้มีความเป็นธรรม


3.3 การปรับโครงสร้างการผลิตทางการเกษตร/การกระจายการผลิต

YSF สามารถรวมกลุ่มในรูปแบบวิสาหกิจชุมชนเพื่อสร้างอำนาจต่อรอง จัดการผลผลิต และกระจายรายได้สู่ชุมชน โดยนำวัตถุดิบในชุมชนมาผลิตหรือแปรรูป แบ่งปันความรู้ ขยายเครือข่าย และใช้สื่อโซเชียลในการประชาสัมพันธ์และสร้างโมเดลธุรกิจ การรวมกลุ่มจะช่วยให้สามารถควบคุมราคาสินค้าและปริมาณการผลิตได้โดยไม่ผ่านคนกลาง ภาครัฐควรสนับสนุนด้านเงินทุน การปรับโครงสร้างหนี้ และการส่งออก เพื่อให้เกิดฐานการผลิตที่มั่นคง ลดการเผา เพิ่มผลผลิต และสร้างรายได้ที่ยั่งยืน


3.4 การรักษาเสถียรภาพของราคาสินค้าเกษตร

ปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาด ราคาตกต่ำ และคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน เป็นผลมาจากการนำเข้าสินค้าเกษตรบางชนิด การผลิตโดยขาดข้อมูล (Big Data) และอำนาจต่อรองที่น้อยกว่าเมื่อเทียบกับผู้รับซื้อรายใหญ่ YSF สามารถมีบทบาทในการเก็บรวบรวมข้อมูลการผลิตในพื้นที่เพื่อใช้วางแผนการผลิตและแปรรูปเมื่อคาดการณ์ว่าสินค้าจะล้นตลาด รวมถึงการให้ความรู้ด้านการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ภาครัฐควรควบคุมมาตรฐานการนำเข้าสินค้า สนับสนุนงบประมาณในการแปรรูปและหาตลาด ร่วมมือกับ YSF สร้างฐานข้อมูลการผลิตทั่วประเทศ และกำกับดูแลผู้รับซื้อรายใหญ่ให้เกิดความเป็นธรรม


3.5 การแก้ไขปัญหาพื้นที่ทุ่งรับน้ำ

พื้นที่ทุ่งรับน้ำในภาคกลางมักประสบปัญหาน้ำท่วมขังเป็นเวลานานและภัยแล้งสลับกัน YSF สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นโอกาส เช่น ขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกหญ้าแฝกเพื่อชะลอน้ำและป้องกันหน้าดินทลาย ปลูกปาล์มเพื่อช่วยดูดซับน้ำ และทำหน้าที่มอนิเตอร์ข้อมูลน้ำในพื้นที่ ภาครัฐควรปรับปรุงแหล่งกักเก็บน้ำเดิม ประชาสัมพันธ์การปล่อยน้ำล่วงหน้า ใช้เทคโนโลยีตรวจวัดและประเมินปริมาณน้ำ พิจารณาสร้างเส้นทางน้ำใหม่ สำรวจความต้องการใช้น้ำของเกษตรกร และพัฒนาระบบ “Spider Water” เพื่อกระจายน้ำไปยังแหล่งน้ำข้างเคียงเมื่อมีปริมาณน้ำมากเกินไป รวมถึงการรับประกันความเสียหายและชดเชยรายได้แก่ผู้ได้รับผลกระทบอย่างโปร่งใส



บทสรุป

การพัฒนาเกษตรกรรุ่นใหม่และการขับเคลื่อนเกษตรกรรมไทยในภาคกลางให้มีความยั่งยืน จำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เกษตรกรรุ่นใหม่ (YSF) ถือเป็นกำลังสำคัญในการนำพาภาคเกษตรกรรมไปสู่ความทันสมัย มีประสิทธิภาพ และสามารถแข่งขันได้ การสนับสนุน YSF ทั้งในด้านองค์ความรู้ ทักษะ เทคโนโลยี เงินทุน และการสร้างเครือข่าย ควบคู่ไปกับการพัฒนานโยบายและโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้ออำนวยจากภาครัฐ จะช่วยให้ภาคเกษตรกรรมไทยสามารถเอาชนะความท้าทายและสร้างความมั่นคงทางอาหารและเศรษฐกิจให้กับประเทศได้อย่างแท้จริง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า