ณปกรณ์ ภูธรรมะ
โครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่รัฐบาลเสนอมา มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้ไปทั่วทุกพื้นที่ แม้ว่าจะเป็นแนวคิดที่ดี แต่กลับพบว่ามีหลายประเด็นที่อาจไม่สอดคล้องกับความต้องการและสถานการณ์จริงของร้านค้ารายย่อยในประเทศ
ณรงเดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ วรภพ วิริยะโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แสดงความกังวลว่าโครงการนี้อาจขาดการพิจารณาอย่างละเอียดถึงความจำเป็นและข้อจำกัดของร้านค้ารายย่อย เงื่อนไขที่กำหนดให้เงินดิจิทัลใช้ได้เฉพาะการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค ทำให้ร้านค้าไม่สามารถนำเงินไปใช้ในกิจกรรมที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจได้ เช่น การซื้อสินค้าคงคลัง ค่าจ้างพนักงาน หรือค่าขนส่ง
วรภพ ชี้ให้เห็นว่า เงื่อนไขที่กำหนดให้ร้านค้าที่รับเงินดิจิทัลไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันที แต่ต้องใช้จ่ายในรอบที่สองก่อน ทำให้ร้านค้าขนาดเล็กและขนาดกลางซึ่งมีเงินหมุนเวียนจำกัด ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เงินดิจิทัลไม่สามารถหมุนเวียนในชุมชนได้อย่างที่ตั้งใจไว้
อีกประเด็นที่ วรภพ เน้นคือ การที่ร้านสะดวกซื้อขนาดใหญ่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ทำให้เงินดิจิทัลที่แจกจ่ายไปนั้นไหลกลับเข้าสู่ธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น ห้างร้านของเจ้าสัว ส่งผลให้เงินไม่ได้หมุนเวียนในชุมชนหรือธุรกิจรายย่อยตามที่ตั้งใจไว้ การที่เงินดิจิทัลหมุนเวียนอยู่ในระบบของธุรกิจขนาดใหญ่ทำให้การกระจายรายได้ไม่เกิดขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น และไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนได้อย่างแท้จริง
วรภพ ยังชี้ว่าเงื่อนไขของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่กำหนดให้ร้านค้าไม่สามารถแลกเงินดิจิทัลเป็นเงินสดได้ทันที สร้างภาระทางการเงินให้กับธุรกิจรายย่อย เนื่องจากเงินดิจิทัลที่ได้รับไม่สามารถนำไปจ่ายค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นได้ เช่น ค่าน้ำมัน ค่าแรงงาน หรือค่าเช่าร้าน สิ่งนี้ทำให้ธุรกิจรายย่อยต้องเผชิญกับปัญหาการหมุนเวียนเงินที่ยากลำบากมากขึ้น
ณรงเดช ยังกล่าวถึงการที่รัฐบาลใช้เงินจำนวนมากถึง 5 แสนล้านบาทในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ทำให้ต้องลดงบประมาณในโครงการอื่น ๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อโครงการที่เคยช่วยเหลือเกษตรกรและธุรกิจรายย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ การที่เงินดิจิทัลไม่สามารถนำไปใช้ในกิจกรรมที่จำเป็นของธุรกิจรายย่อย ทำให้โครงการนี้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของพวกเขาได้
สรุปแล้ว อภิปรายของ ณรงเดช และ วรภพ แสดงให้เห็นว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลไม่ได้ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของธุรกิจรายย่อย เงื่อนไขที่ซับซ้อนและไม่เหมาะสมทำให้กลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการและได้รับประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ รัฐบาลจึงควรพิจารณาและปรับปรุงนโยบายเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนและเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง