เดชรัต สุขกำเนิด
ทีมผู้สมัครนายก อบจ. พรรคประชาชน จังหวัดนนทบุรี นำโดย อ. เลิศมงคล วราเวณุชย์ เบอร์ 2 ได้เสนอนโยบายในการทำให้เมืองนนทบุรีให้เป็น ”เมืองฟองน้ำ“ แต่แนวคิดเมืองฟองน้ำคืออะไร และสำคัญอย่างไรสำหรับจังหวัดนนทบุรี ลองมาติดตามในบทความนี้
1. เมืองฟองน้ำ คือ อะไร
แนวคิดเมืองฟองน้ำ (Sponge City) คือแนวทางการพัฒนาเมืองที่มุ่งเน้นการจัดการน้ำฝนอย่างยั่งยืน โดยเปรียบเมืองเป็น “ฟองน้ำ” ที่สามารถซึมซับ กักเก็บ และปล่อยน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดปัญหาน้ำท่วม ชะลอการไหลของน้ำ และนำทรัพยากรน้ำมาใช้ซ้ำ โดยเลียนแบบระบบนิเวศตามธรรมชาติ เปรียบเสมือนฟองน้ำที่สามารถดูดซับ กักเก็บ กรอง และระบายน้ำได้อย่างเป็นธรรมชาติ แนวคิดนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากการขยายตัวของเมืองและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น น้ำท่วมขัง, ภัยแล้ง, และมลพิษทางน้ำ
หลักการสำคัญของเมืองฟองน้ำคือการผสานรวมโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว (Green Infrastructure) และโครงสร้างพื้นฐานสีเทา (Grey Infrastructure) เข้าด้วยกัน โดยโครงสร้างพื้นฐานสีเขียวจะเน้นการใช้หรือเลียนแบบธรรมชาติ เช่น การปลูกต้นไม้ สร้างพื้นที่ชุ่มน้ำ ส่วนโครงสร้างพื้นฐานสีเทาจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น ท่อระบายน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำ แต่ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับแนวคิดเมืองฟองน้ำ
เมืองฟองน้ำจึงไม่ใช่แค่การแก้ปัญหาน้ำท่วม แต่ยังรวมถึงการสร้างสมดุลของระบบนิเวศในเมือง การปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน และการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

ภาพ Harbin Qunli Stormwater Park, Harbin, China สวนสาธารณะภายใต้แนวคิดเมืองฟองน้ำ
ที่มา : https://www.tclf.org/landscapes/harbin-qunli-stormwater-park
2. หลักการสำคัญของเมืองฟองน้ำ
หลักการสำคัญของเมืองฟองน้ำ มุ่งเน้นการจัดการน้ำฝนอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยเลียนแบบกระบวนการทางน้ำตามธรรมชาติ สามารถสรุปได้ดังนี้:
- การดูดซับน้ำ (Absorption): ใช้พื้นผิวและโครงสร้างพื้นฐานที่สามารถดูดซับน้ำฝนได้ เช่น พื้นผิวซึมน้ำได้, สวนและสวนหย่อมรองรับน้ำฝน, และหลังคาเขียว เพื่อลดปริมาณน้ำที่ไหลบ่าบนพื้นผิว
- การกักเก็บน้ำ (Retention): กักเก็บน้ำฝนไว้ในพื้นที่ต่างๆ เช่น บ่อหน่วงน้ำ, พื้นที่ชุ่มน้ำ, และถังเก็บน้ำใต้ดิน เพื่อชะลอการไหลของน้ำและลดความเสี่ยงจากน้ำท่วม
- การซึมน้ำ (Infiltration): ส่งเสริมให้น้ำฝนซึมลงสู่ดิน เติมเต็มน้ำใต้ดิน และลดปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่ระบบระบายน้ำ
- การบำบัดน้ำ (Purification): ใช้กระบวนการทางธรรมชาติ เช่น การกรองด้วยพืชและดิน เพื่อบำบัดน้ำฝนและปรับปรุงคุณภาพน้ำก่อนระบายออกสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ
- การนำน้ำกลับมาใช้ (Utilization): นำน้ำฝนที่ผ่านการบำบัดแล้วกลับมาใช้ประโยชน์ เช่น รดน้ำต้นไม้, ล้างรถ, หรือใช้ในกิจกรรมอื่นๆ เพื่อลดการใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
- การระบายน้ำ (Drainage): ออกแบบระบบระบายน้ำที่สามารถรองรับน้ำฝนปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ และระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างปลอดภัย โดยคำนึงถึงการป้องกันปัญหาน้ำท่วม
นอกจากหลักการ 6 ข้อข้างต้นแล้ว การพัฒนาเมืองฟองน้ำยังให้ความสำคัญกับ:
- การบูรณาการ (Integration): ผสานแนวคิดเมืองฟองน้ำเข้ากับการวางผังเมือง การออกแบบอาคาร และการจัดการพื้นที่สีเขียว
- การมีส่วนร่วม (Participation): ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการวางแผนและดูแลรักษาโครงสร้างพื้นฐานฟองน้ำ
- ความยืดหยุ่น (Resilience): สร้างเมืองที่สามารถปรับตัวและรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ฝนตกหนักและภัยแล้ง
3. ทำไมนนทบุรีต้องเป็น “เมืองฟองน้ำ”
แนวคิด เมืองฟองน้ำ (Sponge City) สามารถเป็นประโยชน์กับจังหวัดนนทบุรีได้อย่างมาก เนื่องจากลักษณะทางภูมิศาสตร์และปัญหาที่จังหวัดเผชิญอยู่ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมและการขยายตัวของเมืองที่รวดเร็ว มาดูเหตุผลและความเหมาะสมกับนนทบุรีกันก่อน
3.1 พื้นที่ลุ่มต่ำและเสี่ยงน้ำท่วม
- นนทบุรีตั้งอยู่ในเขตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและมีปัญหาน้ำท่วมบ่อยครั้ง โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนหรือฤดูน้ำหลาก
- แนวคิดเมืองฟองน้ำช่วยลดน้ำท่วมได้โดยการสร้างระบบที่ซึมซับน้ำฝนและชะลอการไหลของน้ำ เช่น การสร้างพื้นที่สีเขียวชุ่มน้ำหรือระบบกักเก็บน้ำในเขตชุมชนเมือง
3.2 การขยายตัวของเมืองและพื้นผิวแข็งที่เพิ่มขึ้น
- การพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐานในนนทบุรี ทำให้เกิด “พื้นผิวแข็ง” (Hard Surface) จำนวนมาก เช่น ถนนและอาคารที่ขัดขวางการซึมของน้ำลงสู่ดิน
- แนวคิดเมืองฟองน้ำสนับสนุนการเปลี่ยนพื้นผิวให้ “ซึมผ่านน้ำได้” เช่น การใช้วัสดุซึมซับน้ำแทนคอนกรีต และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง
3.3 ปัญหาการบริหารจัดการน้ำฝน
- นนทบุรีมีโครงสร้างระบายน้ำที่บางส่วนอาจล้าสมัยและไม่เพียงพอสำหรับรองรับปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้น จากสภาวะฝนตกหนักสุดขั้ว เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- เมืองฟองน้ำเน้นการชะลอและกักเก็บน้ำฝนในพื้นที่ เช่น การสร้างบ่อพักน้ำใต้ดินหรือสระน้ำในพื้นที่ชุมชน เพื่อช่วยลดแรงดันต่อระบบระบายน้ำ

ภาพมุมสูงเมืองนนทบุรี เมืองที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มต่ำ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน หมู่บ้านจัดสรร คอนโดและห้างสรรพสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มีความเสี่ยงต่อปัญหาน้ำท่วมสูง
ที่มา : google maps

ภาพน้ำท่วมขังถนนในเมืองนนทบุรี เนื่องจากฝนตกหนักจนท่อระบายน้ำระบายไม่ทัน
ที่มา : เพจ ข่าวคนนนท์
4. ประโยชน์ที่นนทบุรีจะได้รับจากเมืองฟองน้ำ
การพัฒนานนทบุรีพัฒนาให้เป็นเมืองฟองน้ำ (Sponge City) จะก่อให้เกิดประโยชน์กับชาวนนทบุรีหลายประการ ครอบคลุมทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ได้แก่
4.1 ลดปัญหาน้ำท่วมขัง
- การสร้างระบบซึมซับน้ำและกักเก็บน้ำฝน เช่น สวนน้ำฝน สวนหย่อมน้ำฝน สวนสาธารณะชุ่มน้ำ สระน้ำหรือบ่อพักน้ำใต้ดิน จะช่วยชะลอน้ำฝน ลดปริมาณน้ำที่ระบายเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยาในคราวเดียวกัน และลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ ของจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ
4.2 การปรับปรุงคุณภาพน้ำ
- การกรองมลพิษ: ระบบสวนฝนและพื้นที่ชุ่มน้ำสามารถกรองมลพิษในน้ำฝนก่อนที่น้ำจะไหลลงสู่ลำคลองและแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งจะช่วยลดการปนเปื้อนของแหล่งน้ำธรรมชาติ
4.3 ประหยัดทรัพยากรน้ำและเพิ่มความสามารถในการรับมือภัยแล้ง
- น้ำฝนที่กักเก็บไว้จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำสำรอง ช่วยลดการใช้น้ำประปา สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในช่วงฤดูแล้ง ลดผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำ สามารถนำมาใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การรดน้ำต้นไม้ หรือการใช้น้ำในพื้นที่สาธารณะ
4.4 เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน
- การเพิ่มพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ชุ่มน้ำ เช่น สวนสาธารณะ สวนหย่อม และทางเดินริมน้ำ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงภูมิทัศน์ ลดความร้อนในเมือง ช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศ เพิ่มพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ และส่งเสริมสุขภาพกายและใจของประชาชน
4.5 การกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน
- การมีระบบจัดการน้ำที่ดีและสภาพแวดล้อมที่น่าอยู่จะดึงดูดนักลงทุนและนักท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่เมือง รวมทั้งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การสร้างสวนสาธารณะ พื้นที่สีเขียว และระบบบำบัดน้ำ จะสร้างงานในภาคการก่อสร้าง การบำรุงรักษา และการจัดการสิ่งแวดล้อม
4.6 ส่งเสริมความยืดหยุ่นและความยั่งยืนของเมือง
- แนวคิดเมืองฟองน้ำช่วยสร้างระบบจัดการน้ำที่พึ่งพาธรรมชาติ ลดต้นทุนการลงทุนในระบบระบายน้ำขนาดใหญ่ เพิ่มความสามารถในการปรับตัวของเมือง สร้างความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ช่วยให้จังหวัดนนทบุรีมีความสามารถในการปรับตัวและรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ฝนตกหนัก น้ำท่วม และภัยแล้ง ได้ดียิ่งขึ้น
4.7 ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัด
- การเป็นเมืองฟองน้ำจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับนนทบุรีในฐานะเมืองที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และเป็นผู้นำในการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเมืองฟองน้ำจำเป็นต้องอาศัยการวางแผนที่รอบคอบ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและยั่งยืนแก่จังหวัดนนทบุรี
5. แนวทางการประยุกต์ใช้แนวคิดเมืองฟองน้ำกับจังหวัดนนทบุรี
การใช้ประยกต์ใช้แนวคิดเมืองฟองน้ำกับจังหวัดนนทบุรีนั้นทำได้หลายประการ โดยอาศัยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่อิงกับฐานทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศ รวมทั้งการประสานความร่วมมือระหว่าง อปท. ชุมชน เอกชน และหน่วยงานรัฐส่วนกลาง ซึ่งแนวทางการพัฒนาเพื่อให้จังหวัดนนทบุรีเป็นเมืองฟองน้ำ สามารถทำได้ดังนี้
5.1 เพิ่มพื้นที่สีเขียวและสวนชุ่มน้ำ
- พัฒนาพื้นที่สาธารณะและพื้นที่สีเขียว อาทิ การปรับปรุงสวนสาธารณะริมแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก ให้มีฟังก์ชันซึมซับน้ำฝนและชะลอน้ำ การเพิ่มสวนฝน (rain gardens) สวนหย่อมน้ำฝน และพื้นที่ชุ่มน้ำ ในพื้นที่สาธารณะและพื้นที่เอกชน ให้กระจายตัวในพื้นที่ อาทิ พื้นที่ในการดูแลของ อบจ. พื้นที่สวนยกร่อง พื้นที่ร้านอาหารและคาเฟ่สีเขียว และพื้นที่รีสอร์ท ที่พัก โรงแรมหรือสถานที่จัดประชุม เป็นต้น ซึ่งจะช่วยดูดซับน้ำฝน ลดการไหลบ่าของน้ำ และเพิ่มพื้นที่พักผ่อนให้กับประชาชน.
5.2 สร้างระบบกักเก็บน้ำในชุมชนเมือง
- พัฒนา “บ่อหน่วงน้ำ” ใต้ดินในพื้นที่ที่มีการพัฒนาใหม่ เช่น ศูนย์การค้า หรือโครงการที่อยู่อาศัย
- ติดตั้งบ่อพักน้ำฝนหรือแทงก์เก็บน้ำในพื้นที่ชุมชนและอาคาร เพื่อกักเก็บน้ำฝนไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้ง เช่น การรดน้ำต้นไม้หรือทำความสะอาดพื้นที่.
5.3 ใช้วัสดุที่ซึมซับน้ำได้
- ปรับปรุงถนนหรือทางเท้าในเขตเมืองด้วยวัสดุที่ซึมผ่านน้ำ เช่น พื้นถนนซึมผ่านได้ (Permeable Pavement) หรือแอสฟัลต์ซึมน้ำ เพื่อช่วยลดน้ำขังบนถนนและเพิ่มการเติมน้ำใต้ดิน
5.4 ฟื้นฟูคลองและทางน้ำธรรมชาติ
- นนทบุรีมีคลองหลายสาย เช่น คลองอ้อมนนท์ คลองไผ่ คลองบางรักน้อย คบองบางกร่าง คลองบางเขน คลองวัดแดง คลองหัวคู คลองบางม่วง คลองบางคูเวียง คลองบางราวนก เป็นต้น ที่สามารถฟื้นฟูให้กลับมามีบทบาทในการระบายน้ำและช่วยชะลอการไหลของน้ำ
5.5 การบูรณาการเทคโนโลยีและธรรมชาติ
- ใช้ระบบบำบัดน้ำตามธรรมชาติ: เช่น การสร้างระบบกรองน้ำด้วยพืช (bio-retention systems) เพื่อบำบัดน้ำฝนก่อนปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ลดมลพิษในน้ำ
- ติดตั้งระบบระบายน้ำอัจฉริยะ: ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ตรวจวัดระดับน้ำและระบบระบายน้ำอัตโนมัติเพื่อจัดการน้ำท่วมในพื้นที่เสี่ยง
6. ตัวอย่างเมืองฟองน้ำในประเทศจีน
ประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดเมืองฟองน้ำ มีตัวอย่างเมืองฟองน้ำ (Sponge City) ที่น่าสนใจหลายเมืองที่มีการจัดการน้ำแล้วได้ผลดีและสามารถเทียบเคียงกับจังหวัดนนทบุรีได้ ตัวอย่างเมืองฟองน้ำในประเทศจีนที่น่าสนใจมีดังนี้
6.1 เมืองฉางโจว (Changzhou), ประเทศจีน
- ลักษณะเมือง: เมืองขนาดกลางที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำแยงซี มีการพัฒนาเมืองที่รวดเร็วคล้ายกับนนทบุรี รวมถึงการเผชิญปัญหาน้ำท่วมและการขยายตัวของพื้นที่ชุมชนเมือง
- การดำเนินการ:
- สร้างพื้นที่สีเขียวที่ทำหน้าที่เป็น “ฟองน้ำ” ในการซึมซับน้ำฝน เช่น สวนสาธารณะ บึง และคลอง
- ใช้วัสดุซึมผ่านน้ำในโครงการพัฒนาเมือง เช่น ทางเท้าและถนน
- มีการสร้างบ่อหน่วงน้ำใต้ดินในพื้นที่ชุมชนและอาคารขนาดใหญ่ เพื่อกักเก็บน้ำฝนและลดน้ำท่วม
- ผลลัพธ์:
- ลดปัญหาน้ำท่วมในช่วงฝนตกหนัก
- เพิ่มพื้นที่สีเขียวและช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชน
6.2 เมืองหนานจิง (Nanjing), ประเทศจีน
- ลักษณะเมือง: เมืองประวัติศาสตร์ที่มีระบบคลองและแม่น้ำคล้ายกับนนทบุรี เผชิญปัญหาการพัฒนาเมืองอย่างรวดเร็วที่ทำให้พื้นผิวแข็งเพิ่มขึ้น และการลดทอนบทบาทของทางน้ำธรรมชาติ
- การดำเนินการ:
- ฟื้นฟูคลองและทางน้ำในเขตเมืองเพื่อช่วยซึมซับน้ำและเพิ่มการระบายน้ำ
- สร้างสวนสาธารณะชุ่มน้ำ เช่น สวนลุ่มน้ำ Qixia ซึ่งสามารถซึมซับและกักเก็บน้ำฝนได้
- ส่งเสริมให้โครงการอสังหาริมทรัพย์สร้างบ่อหน่วงน้ำใต้ดินและระบบเก็บน้ำฝน
- ผลลัพธ์:
- ลดการสะสมของน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำ
- พื้นที่ริมคลองกลายเป็นแหล่งพักผ่อนสำหรับประชาชน
6.3 ความคล้ายคลึงกับนนทบุรี
- ลักษณะพื้นที่: เมืองเหล่านี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำคล้ายนนทบุรีที่อยู่ในเขตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาและประกอบด้วยคลองน้ำหลายสาย
- ปัญหาคล้ายกัน:
- น้ำท่วมจากฝนตกหนักหรือระดับน้ำในแม่น้ำสูง
- การขยายตัวของเมืองที่เพิ่มพื้นผิวแข็งและลดพื้นที่สีเขียว
- แนวทางแก้ไขที่คล้ายกันได้:
- การฟื้นฟูคลองและพื้นที่สีเขียวให้ช่วยซึมซับน้ำ
- การเพิ่มบ่อหน่วงน้ำใต้ดินในเขตเมืองเพื่อช่วยกักเก็บน้ำและลดปริมาณการไหลบ่าของน้ำ
- ใช้วัสดุซึมผ่านน้ำในพื้นที่พัฒนาใหม่เพื่อซึมซับน้ำลงดิน

ภาพตัวอย่างการออกแบบเมืองฟองน้ำของเมืองฉางโจว (Changzhou), ประเทศจีน
ที่มา ; เพจ china News
7. การลงทุนสร้างเมืองฟองน้ำในจังหวัดนนทบุรี
การเริ่มต้นการลงทุนตามแนวคิดเมืองฟองน้ำในนนทบุรี ควรเลือกโครงการที่มีผลกระทบกว้างขวาง ลงทุนไม่สูงมาก และสามารถแสดงผลลัพธ์ที่ชัดเจนในระยะเวลาอันสั้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โครงการที่เหมาะสมควรเริ่มต้นจาก:
7.1 การพัฒนาสวนสาธารณะฟองน้ำ (Sponge Parks)
- เหตุผล: สวนสาธารณะเป็นพื้นที่ที่มีความยืดหยุ่นในการปรับปรุง โดยสามารถเพิ่มฟังก์ชันในการกักเก็บน้ำฝน ซึมซับน้ำฝน และชะลอการไหลของน้ำได้
- ตัวอย่างการลงทุน:
- ฟื้นฟูสวนสาธารณะที่มีอยู่เดิมจำนวนหลายร้อยไร่ เช่น สวนอุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ อุทยานมกุฎรมยสราญ สวนสาธารณะกระทรวงสาธารณสุข หรือสร้างสวนใหม่ให้มีพื้นที่ชุ่มน้ำ (Wetland) ในพื้นที่สาธารณะหรือพื้นที่เอกชนที่ทำธุรกิจสีเขียว เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ รีสอร์ท สถานที่ประชุม หรือแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรนิเวศและแคมป์ปิ้ง เป็นต้น
- ใช้วัสดุซึมผ่านน้ำในทางเดินและลานกิจกรรม
- ติดตั้งบ่อกักเก็บน้ำใต้ดินเพื่อใช้ในระบบน้ำหมุนเวียน เช่น รดน้ำต้นไม้
- ประโยชน์:
- ลดน้ำท่วมในบริเวณใกล้เคียง
- เพิ่มพื้นที่สีเขียวและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจให้ประชาชน
- สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจจากการลงทุนและการประกอบการ
- ต้นทุนไม่สูงเมื่อเทียบกับโครงการขนาดใหญ่
7.2 โครงการฟื้นฟูคลองและระบบระบายน้ำธรรมชาติ
- เหตุผล: นนทบุรีมีคลองและทางน้ำธรรมชาติที่มีศักยภาพอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ถูกลดบทบาทจากการพัฒนาเมืองและขาดการบำรุงรักษา การฟื้นฟูคลองเหล่านี้ตามแนาทางเมืองฟองน้ำจะช่วยปรับปรุงระบบการจัดการน้ำในระดับพื้นที่ได้ทันที
- ตัวอย่างการลงทุน:
- ขุดลอกและปรับปรุงคลองในเขตชุมชน เช่น คลองบางกรวย คลองอ้อมนนท์ คลองไผ่ คลองบางรักน้อย เป็นต้น
- เพิ่มพื้นที่สีเขียวและระบบซึมซับน้ำบริเวณริมคลอง โดยเลือกชนิดพืชที่มีประสิทธิภาพในการซึมซับน้ำและการกรองน้ำช่วยลดมลพิษในน้ำ
- สร้างเขื่อนหรือพื้นที่พักน้ำขนาดเล็กเพื่อลดแรงดันน้ำในช่วงฝนตกหนัก
- ประโยชน์:
- ลดปัญหาน้ำท่วมเฉพาะจุดในพื้นที่ลุ่มต่ำ
- ส่งเสริมการไหลเวียนของน้ำและฟื้นฟูระบบนิเวศ
- ใช้งบประมาณไม่สูงมาก โดยใช้โครงสร้างเดิมที่มีอยู่
- เป็นแหล่งท่องเที่ยวและผักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชน
7.3 การปรับปรุงถนนและทางเท้าด้วยวัสดุซึมผ่านน้ำ (Permeable Pavement)
- เหตุผล: ถนนและทางเท้าเป็นพื้นที่ที่มี “พื้นผิวแข็ง” มากที่สุดในเขตเมือง การเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่ซึมผ่านน้ำได้ช่วยลดปัญหาน้ำขังและน้ำท่วมในเขตเมือง
- ตัวอย่างการลงทุน:
- ปรับปรุงพื้นที่นำร่อง เช่น ถนนในเขตเทศบาล หรือบริเวณหน้าสถานที่สำคัญ เช่น ศาลากลางจังหวัด
- ใช้บล็อกคอนกรีตที่ซึมผ่านน้ำได้ หรือวัสดุที่ช่วยชะลอการระบายน้ำ
- การปรับปรุงการปลูกต้นไม้ริมถนนและตามเกาะกลางถนนให้เป็นส่วนหย่อมขนาดเล็กที่น้ำซึมผ่านลงดินได้
- ประโยชน์:
- แก้ปัญหาน้ำขังบนถนนในพื้นที่เสี่ยง
- เป็นตัวอย่างให้โครงการใหม่ ๆ นำไปใช้
- ลงทุนในพื้นที่เล็ก ๆ ก่อนเพื่อประหยัดงบประมาณ
7.4 โครงการ “บ่อหน่วงน้ำ” ใต้ดินในชุมชนและอาคารขนาดใหญ่
- เหตุผล: นนทบุรีมีการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์และอาคารขนาดใหญ่จำนวนมาก ซึ่งเป็นโอกาสในการผสานโครงการบ่อหน่วงน้ำใต้ดินเข้าไปในการก่อสร้าง
- ตัวอย่างการลงทุน:
- บังคับให้โครงการใหม่ เช่น ศูนย์การค้า โรงเรียน หรือหมู่บ้านจัดสรร มีบ่อหน่วงน้ำใต้ดินที่สามารถเก็บน้ำฝนและปล่อยออกตามความเหมาะสม
- สร้างบ่อหน่วงน้ำในพื้นที่สาธารณะ เช่น ลานจอดรถ
- ประโยชน์:
- ลดแรงดันต่อระบบระบายน้ำ
- เก็บน้ำไว้ใช้ในพื้นที่ในช่วงที่ฝนไม่ตกหรือฤดูแล้ง เช่น รดน้ำต้นไม้ การดูแลสวนในเมือง หรือน้ำใช้ในห้องน้ำ
7.5 การติดตั้งถังเก็บน้ำฝน (Rainwater Harvesting) ในชุมชน
- เหตุผล: เป็นโครงการที่ใช้งบประมาณน้อย แต่สามารถกระจายผลลัพธ์ไปยังครัวเรือนในชุมชนต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง ทั้งชุมชนบ้านจัดสรร ชุมชนเมืองและชุมชนเกษตร
- ตัวอย่างการลงทุน:
- สนับสนุนการติดตั้งถังเก็บน้ำฝนในบ้านเรือนหรืออาคารสาธารณะ เช่น วัด โรงเรียน หรือสถานที่ราชการต่างๆ
- ให้เงินสนับสนุนหรือลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่ลงทุนในระบบนี้
- ประโยชน์:
- ช่วยลดปริมาณน้ำที่ระบายลงสู่ระบบ
- ประหยัดค่าใช้จ่ายน้ำประปาในครัวเรือน
- ครัวเรือน ชุมชน โรงเรียนและวัดมีแหล่งน้ำสำรองไว้ไช้เพื่อการรดต้นไม้หรือในห้องน้ำ
- ต้นทุนต่ำ เหมาะสำหรับการเริ่มต้นโครงการ

ภาพ อุทยานเฉลิมกาญจนาภิเษก พื้นที่ 100 ไร่ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถปรับปรุงให้เป็นสวนสาธารณะฟองน้ำตามแนวคิดเมืองฟองน้ำได้
ที่มา : google map
8. สรุป : เมืองฟองน้ำ ท้องถิ่นนนทบุรีก็ริเริ่มทำได้
แนวคิดเมืองฟองน้ำเป็นประโยชน์ต่อจังหวัดนนทบุรีอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในการจัดการปัญหาน้ำท่วม ลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเพิ่มความยืดหยุ่นและยั่งยืนให้กับเมือง การประยุกต์ใช้ควรมุ่งทั้งการวางแผนระยะสั้น ระยะกลางและระยะยาว และการมีส่วนร่วมของภาคีการพัฒนาเมืองทั้งภาครัฐ เอกชนและชุมชนเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ส่วนโครงการที่คุ้มค่าที่สุดในการเริ่มต้นในจังหวัดนนทบุรี
- สวนสาธารณะฟองน้ำ และ การฟื้นฟูคลอง เป็นโครงการที่มีต้นทุนไม่สูงมากและมีผลกระทบเชิงบวกทั้งในด้านการจัดการน้ำและคุณภาพชีวิตของประชาชน
- การใช้วัสดุซึมผ่านน้ำในถนนและทางเท้า สามารถเริ่มในพื้นที่นำร่องเพื่อแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- บ่อหน่วงน้ำใต้ดิน เหมาะสำหรับโครงการใหม่ที่มีศักยภาพในการปรับใช้โดยไม่ต้องรื้อโครงสร้างเดิม
การเริ่มต้นจากโครงการเล็ก ๆ ที่ท้องถิ่น ที่สร้างผลลัพธ์ชัดเจน จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักลงทุนในระยะยาว