ก้าวไกลเข้าใจหมาแมวเปิดนโยบายดูแลหมาแมวถ้วนหน้า

Think Forward Center


แม้ปัจจุบัน ประเทศไทยจะเป็นประเทศหนึ่งที่มีความนิยมในการเลี้ยงแมวและหมา และเป็นหนึ่งในผู้นำพัฒนาสายพันธุ์หมาและแมว รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะอาหารสัตว์ แต่ประเทศไทยก็เป็นประเทศที่มีปัญหาหมาจรและแมวจรติดอันดับต้นของโลกเช่นกัน จนอาจเรียกว่า ปัญหาหมาจรและแมวจรเป็นหนึ่งในปัญหาที่สร้างความกลืนไม่เข้าคายไม่ออกให้กับผู้คนในสังคมไทยเช่นกัน

การเพิ่มจำนวนประชากรหมาจรและแมวจรอย่างรวดเร็ว นอกจากจะสร้างปัญหาต่อสุขอนามัยภายในเมืองแล้ว หมาจรและแมวจรยังอาจมีส่วนในการแพร่เชื้อติดต่อจากสัตว์จรสู่สัตว์เลี้ยง หรือจากสัตว์จร/สัตว์เลี้ยงสู่มนุษย์ รวมถึงโรคอุบัติใหม่ที่อาจจะมีในอนาคตได้ นอกจากนั้น การปล่อยให้เกิดหมาจรและแมวจรยังเป็นปัญหาในแง่สวัสดิภาพสัตว์อีกด้วย

พรรคก้าวไกล และ Think Forward Center เห็นว่า สังคมไทยไม่อาจละเลยหรือเพิกเฉยต่อปัญหาดังกล่าวได้อีกต่อไป จึงได้ชวนทีมงาน Cat Kingdom of Thailand และเหล่าภาคีผู้รักสัตว์ทั้งหลายในจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง มาร่วมจัดวงสนทนาหรือกิจกรรม Workshop “ก้าวไกลเข้าใจแมว: ข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อการดูแลแมวถ้วนหน้า” เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ที่ผ่านมา ที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่


จากวงพูดคุย ขบคิด และแลกเปลี่ยนเพื่อหาทางออกร่วมกัน ทำให้ Think Forward Center สามารถสรุปออกมาเป็นข้อเสนอเพื่อการพัฒนานโยบายการดูแลหมาแมวถ้วนหน้า โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 องค์ประกอบ คือ


1 – สนับสนุนการฉีดวัคซีน/ทำหมันให้ครอบคลุมทั้งหมาแมวบ้านและหมาแมวจรในพื้นที่

เนื่องจากโรคที่ติดต่อในสัตว์และโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนส่วนใหญ่ เกิดจากการที่สัตว์เลี้ยง/สัตว์จรส่วนใหญ่ขาดการเข้าถึงวัคซีนป้องกันโรคติดต่อ อีกทั้งการไม่มีแผนควบคุมประชากรหมาแมวอย่างจริงจัง ก็ยิ่งทำให้การแพร่จำนวนของสัตว์จรเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว การฉีดวัคซีนและการทำหมันจึงเป็นการดำเนินการขั้นแรกสุดที่จะทำให้โรคติดต่อในสัตว์และจากสัตว์สู่คนลดลงได้

แต่กระนั้น ที่ผ่านมา การฉีดวัคซีนและการทำหมันยังมีปัญหาอุปสรรคที่สำคัญ 3 ประการคือ (ก) ความเข้าใจในบทบาทภารกิจที่ไม่ตรงกันระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับหน่วยงานราชการส่วนกลาง เช่น กรมปศุสัตว์ (ข) การได้รับงบประมาณที่ไม่เพียงพอ ทำให้การทำหมันและการฉีดวัคซีนไม่ครอบคลุมหมาจรและแมวจรในพื้นที่ได้ และ (ค) ความร่วมมือกับชุมชนในการรวบรวมและนำสัตว์เลี้ยงมาทำหมันและฉีดวัคซีน


เพราะฉะนั้น Think Forward Center จึงเสนอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นองค์กรหลักในการดำเนินการ และการที่พรรคก้าวไกลซึ่งมีนโยบายกระจายงบประมาณจากราชการส่วนกลางและส่วนภูมิภาคไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มากขึ้น (เช่น องค์การบริหารส่วนตำบลแต่ละแห่งจะได้รับงบประมาณเพื่อการดำเนินการทั้งหมดเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 15 ล้านบาท/ปี) ก็น่าจะช่วยให้ท้องถิ่นมีทรัพยากรที่เพียงพอในการดำเนินการ และในกรณีเทศบาลขนาดใหญ่อาจจำเป็นต้องมีการจัดตั้งหน่วยงานด้านสวัสดิภาพสัตว์และมีสัตว์แพทย์ประจำ เพื่อรับผิดชอบการดำเนินงานในด้านนี้ร่วมกับชุมชนอย่างจริงจัง จนสามารถควบคุมปริมาณหมาจรและแมวจรให้ได้


2 – สนับสนุนการลงทะเบียนหมาแมว

นอกจากทำหมันและการฉีดวัคซีนแล้ว การพัฒนาระบบลงทะเบียนหมาแมวบ้าน และหมาแมวชุมชน เพื่อตรวจสอบ/บันทึกจำนวนประชากรหมาแมว ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยการเลี้ยงหมาแมวที่บ้านจำเป็นต้องมีกฎกติกาที่เหมาะสม มิใช่เลี้ยงในจำนวนที่มากเกินไปหรือด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสมจนเป็นอันตรายต่อสวัสดิภาพสัตว์ และการส่งความเดือดร้อนรำคาญต่อเพื่อนบ้าน


ส่วนหมาและแมวที่อยู่ในพื้นที่สาธารณะ ต้องจัดระบบการจัดการหมาแมวจรให้เป็นหมาแมวชุมชน เช่น ในกรณีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือกรณีตลาดแม่กลอง คำว่า “หมาและแมวชุมชน” นั้นต้องอาศัยการตกลงร่วมกันของผู้คนในชุมชน เพื่อให้การจัดการหมาแมวจากนี้เป็นเรื่องของทุกคนในชุมชนที่ต้องดูแลร่วมกัน และมีสมาชิกในชุมชนที่ระบุไว้ชัดเจนว่าจะรับผิดชอบในกรณีที่หมาชุมชนและแมวชุมชนไปสร้างความเดือดร้อน/เสียหายให้เกิดขึ้น นอกจากนี้ ยังควรทำความเข้าใจในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายการป้องกันการทารุณกรรมสัตว์กับสมาชิกในชุมชน และประชาชนทั่วไปด้วย

ทั้งนี้ Think Forward Center เสนอให้รัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้กับชุมชนและประชาชนที่เข้าร่วมลงทะเบียน เช่น การเข้าถึงระบบการดูแลสุขภาพหมาและแมวเบื้องต้น ซึ่งจะกล่าวถึงในข้อสุดท้าย


3 – สนับสนุนสถานพักพิงหมาแมวให้มีมาตรฐาน/คุณภาพ เพื่อรองรับหมาแมวจร

อย่างไรก็ดี หมาและแมวบางส่วนก็อาจจะยังมิได้เป็นหมาและแมวชุมชน และในบางกรณีหมาและแมวที่เลี้ยงตามบ้านก็อาจประสบปัญหาในการเลี้ยง (เช่น ผู้เลี้ยงเสียชีวิตหรือจำเป็นต้องย้ายถิ่นฐาน) เพราะฉะนั้น สังคมไทยจึงจำเป็นต้องมีสถานพักพิงที่มีมาตรฐานคุณภาพ เพื่อรองรับหมาแมวจร หรือหมาและแมวบ้านด้วย

ที่ผ่านมา รัฐบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลงทุนในเรื่องสถานพักพิงสัตว์เลี้ยงน้อยมาก และไม่มีมาตรฐานการเลี้ยงที่ดีพอ ส่งผลเสียสุขภาพสัตว์และผลกระทบทางลบต่อชุมชน (เช่น กลิ่นหรือเสียง) ขณะเดียวกัน สถานพักพิงสัตว์เลี้ยงที่ดำเนินการโดยภาคประชาสังคม ก็ประสบปัญหาเงินทุน/งบประมาณไม่เพียงพอ จนกลายเป็นภาระทางการเงินและภาระหนี้สินในหลายกรณี

Think Forward Center จึงเสนอให้สถานพักพิงหมาแมวที่มีอยู่เดิมจะต้องได้รับการพัฒนาปรับปรุงให้มีมาตรฐาน/คุณภาพ โดยรัฐบาลองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นอาจอุดหนุนค่าใช้จ่ายหรือมีมาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อการดูแลหมาแมวจร เพราะหากสถานพักพิงสามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ดี โอกาสทางเศรษฐกิจก็จะตามมา ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Cat Kingdom of Thailand ที่มีผู้นิยมเข้ามาเยี่ยมชม เข้ามาเป็นอาสาสมัคร เข้ามาบริจาคเงิน และเข้ารับสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ไปเลี้ยงอยู่เสมอ นอกจากนี้สัตว์เลี้ยงในสถานพักพิงที่ได้รับการดูแลสุขภาพอย่างดี ก็ยังเป็นตัวช่วยให้กับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ในเวลาที่เกิดปัญหาสุขภาพ เช่นประสบอุบัติเหตุ หรือป่วยรุนแรงได้เช่นกัน


4 – สนับสนุนการรับเลี้ยงหมาแมว โดยรับเลี้ยงจากสถานพักพิงและชุมชนแทนการซื้อหมาแมว

เมื่อ หมาและแมวทั้งหมาและแมวชุมชน และหมาและแมวในสถานพักพิง ได้รับการดูแลสุขภาพที่ดีแล้ว รัฐบาล และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ควรสนับสนุนในการสร้างความเข้าใจ และแรงจูงใจให้คนในสังคมเห็นความสำคัญของชีวิตหมาแมวที่ต้องใช้ชีวิตอยู่สถานพักพิงและ/หรือในชุมชน โดยไม่มีเจ้าของที่แท้จริง เพื่อจูงใจให้ผู้คนที่อยากมีสัตว์เลี้ยงมารับเลี้ยงแทนการซื้อสัตว์เลี้ยง ซึ่งก็จะเป็นลดวงจรการเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยงจากฟาร์มที่ไม่ได้มาตรฐาน และมีจำนวนลูกหมา/ลูกแมวเกินกว่าจำนวนความต้องการอีกทางหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ การสนับสนุนความเข้าใจและแรงจูงใจที่สำคัญในการช่วยให้การรับเลี้ยงเกิดได้ง่ายขึ้นคือ (ก) การพัฒนาระบบพี่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงชั่วคราว เพื่อช่วยในการปรับตัวของสัตว์จร/สัตว์ในสถานพักพิงให้เข้ากับครอบครัวและบ้านใหม่ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงช่วยให้คำแนะนำสำหรับเจ้าของน้องหมาและน้องแมวรายใหม่ด้วย และ (ข) การช่วยดูแลหรือมีระบบประกันสุขภาพให้กับหมา/แมวที่ประชาชนมารับเลี้ยงแทนการซื้อ ซึ่งจะกล่าวถึงในข้อต่อไป


5 – สนับสนุนบริการสุขภาพฉุกเฉิน เพื่อสร้างเสริมสุขภาพให้กับหมาแมวบ้าน ชุมชน และสถานที่พักพิง


ปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายในการดูแล/รักษาสุขภาพสัตว์ เป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญคือ ควบคุมได้ยาก ทั้งหมาและบ้าน และหมาและแมวจรที่ประสบปัญหาสุขภาพ ล้วนนำมาซึ่งภาระค่าใช้จ่ายสำหรับผู้เลี้ยง โดยมิได้มีมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐมากพอ ส่งผลให้การควบคุมการแพร่ระบาดของโรคสัตว์เลี้ยงทำได้ยาก และหลายกรณีที่หมาแมวเจ็บป่วยรุนแรง และต้องการรับถ่ายเลือด ก็ยังมีข้อติดขัดและคำถามเกี่ยวกับมาตรฐานของระบบการบริจาคเลือดหรือการได้มาของเลือดหมา/แมวอีกด้วย


เพราะฉะนั้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคสัตว์เลี้ยง (และโรคที่อาจแพร่ถึงมนุษย์) เพื่อการดูแลสุขภาพและสวัสดิภาพของสัตว์ และเพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันของผู้เลี้ยง รัฐบาลควรสนับสนุนให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถพัฒนาระบบบริการสาธารณะ เช่น สัตว์แพทย์และฝ่ายสวัสดิภาพสัตว์ประจำเทศบาล รถพยาบาลสัตว์ พร้อมสัตวแพทย์เคลื่อนที่/สัตวแพทย์อาสา เพื่อตรวจเช็คสุขภาพหมาแมวบ้าน ชุมชน และสถานที่พักพิง ให้น้องหมาน้องแมวมีสุขภาพที่ดี และปราศจากโรคภัยที่อาจติดต่อได้ทั้งในสัตว์และคนได้ รวมถึงรัฐบาลควรศึกษาแนวทางในพัฒนาระบบประกันสุขภาพที่เจ้าของหมา/แมวส่วนใหญ่สามารถร่วมจ่ายได้โดยไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายจนเกินสมควร

ทั้งนี้ นโยบายเพื่อการดูแลหมาแมวถ้วนหน้า เกิดขึ้นเพื่อให้ทั้งสัตว์และคนอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และปราศจากโรคภัย และปัญหาสิ่งแวดล้อมในการอยู่ร่วมกัน หากท่านคือคนหนึ่งที่สนับสนุนนโยบายนี้ ขอให้ทุกท่านร่วมแชร์ ร่วมส่งเสียงเพื่อให้พรรคก้าวไกลนำข้อเสนอของทุกท่านเข้าไปพิจารณาและออกมาเป็นนโยบายเพื่อการดูแลทุกคนอย่างถ้วนหน้าและเท่าเทียม

บทความล่าสุด

งบ 67: สิ่งที่พอจัดการได้กับงบโรงเรียนขนาดเล็ก

แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อลดการเผาในภาคการเกษตร

ห้ามนำเข้าสินค้า จากพื้นที่ที่มีการเผา นโยบายที่ปรากฏอยู่ในร่าง พรบ.ฝุ่นพิษ ฉบับก้าวไกล

คุยกับ “นิติพล ผิวเหมาะ” ทางออกที่เป็นไปได้ในการอยู่ร่วมกันของ “คนกับสัตว์”

จาก “ตัวเงินตัวทอง” และ “ลิง” สู่ “นกปรอดหัวโขน” และ “ช้างป่า” ว่าด้วยปัญหาที่ผ่านมาระหว่าง “คนกับสัตว์”

“ถ้าคุณให้ทุนมา จะมีนักมานุษยวิทยาที่พร้อมนั่งสังเกตลิง”: รศ.ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร ว่าด้วย ‘คนกับสัตว์’ ที่ไม่รู้ใจ แต่ใช้ชีวิตร่วมกันได้

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า