เดชรัต สุขกำเนิด
วันหยุดเป็นโอกาสดีของผู้คนในการท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับชีวิต แต่สำหรับผู้คนจำนวนไม่น้อยก็ไม่สามารถใช้โอกาสวันหยุดที่มี ไปท่องเที่ยวไกลๆ ในพื้นที่ที่แปลกใหม่ได้ ไม่ว่าจะด้วยข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ (หรือไม่มีงบประมาณ) ข้อจำกัดทางภาระงาน (เช่น ผู้เขียนต้องอ่าน/ประชุมร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ ของรัฐบาลในช่วงปีใหม่) ข้อจำกัดทางสุขภาพ (การป้องกันการแพร่ระบาดของโรค หรือนั่งรถเดินทางไกลไม่สะดวก) ข้อจำกัดทางครอบครัว (ลูกเล็กหรือมีญาติผู้ใหญ่ หรือต้องกลับไปเยี่ยมบ้าน) หรือรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการจราจรที่คับคั่งในช่วงวันหยุด ฯลฯ
วันนี้ Think Forward Center ขอแนะนำรูปแบบการท่องเที่ยวที่ท่านจะเหน็ดเหนื่อยน้อยลง ใช้เวลาและใช้เงินที่จำกัดได้ พร้อมๆ กับการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต ที่เป็นผลดีอย่างยิ่งกับเศรษฐกิจท้องถิ่นรอบๆ ตัวท่าน ที่เรียกว่า “Staycation”
ที่มาของ Staycation
Staycation มาจากคำว่า stay บวกกับคำว่า vacation หรือจะแปลง่ายๆ ก็คือ การท่องเที่ยวที่กลับมาพักที่บ้าน หรือหมายถึง การท่องเที่ยวใกล้ๆ บ้านนั่นเอง
คำว่า Staycation เริ่มเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปในช่วงของวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาในปี ค.ศ. 2008 (หรือวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์) ซึ่งทำให้กำลังซื้อของผู้คนในสหรัฐอเมริกาลดลง แต่ด้วยธรรมชาติของมนุษย์ที่อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตตลอดเวลา การท่องเที่ยวแบบใกล้บ้านจึงกลายมาเป็นทางเลือกที่ดีในยุคที่มีข้อจำกัดทางเศรษฐกิจ
Staycation กลับมาเป็นที่นิยมมากขึ้นอีกครั้งในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่การท่องเที่ยวข้ามประเทศ (หรือแม้กระทั่งข้ามรัฐ/ข้ามจังหวัด) ทำได้จำกัด การวางแผนการท่องเที่ยวก็อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การควบคุมโรคที่เปลี่ยนไปแบบยากจะคาดเดา Staycation จึงกลายเป็นตัวเลือกหลักในช่วงเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา ด้วยข้อจำกัดของการควบคุมโรค
แน่นอนว่า ปัจจุบัน สถานการณ์โควิด-19 ได้คลี่คลายแล้ว และการท่องเที่ยวก็กำลังกลับมา แต่ขณะเดียวกัน ข้อจำกัดของแต่ละคน แต่ละครอบครัว ก็ยังอาจแตกต่างกันตามสาเหตุต่างๆ ที่กล่าวถึงในย่อหน้าแรก
เพราะฉะนั้น ไม่ว่าการท่องเที่ยวระยะไกลจะฟื้นกลับมาเพียงใด การท่องเที่ยวระยะใกล้ หรือ Staycation ก็ยังมีบทบาทสำคัญอยู่ และสำหรับที่ไม่ได้วางแผนเดินทางไปไหนไกลในช่วงปีใหม่นี้ (หรือแม้กระทั่ง ไปแล้วอาจกลับมาก่อน หรือรอไปทีหลัง เพื่อหลีกเลี่ยงรถติด) บทความนี้จะขอเชิญชวนให้ทุกท่านลอง staycation กันดู ด้วยการเล่าถึงประโยชน์ของ staycation ใน 5 มิติด้วยกัน
Staycation ช่วยประหยัดเวลา เงิน และแรง
แน่นอนเลยว่า การเที่ยวใกล้ๆ บ้านจะช่วยให้เราประหยัดทั้งเวลา (ในการเดินทางและรถติด) ประหยัดค่าใช้จ่าย (ในการเดินทางและที่พัก) และประหยัดแรง (หรือความเหน็ดเหนื่อย) ของเราด้วย การเที่ยวแบบใกล้บ้านจึงเป็นการเที่ยวที่เราจะมีแรง มีเวลา และมีเงินเหลือด้วย ซึ่งการประหยัดนี้แหละที่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดประโยชน์ในข้อต่างๆ ตามมา
Staycation ช่วยเศรษฐกิจท้องถิ่น
แล้วพอเรามีเงินเหลือจากการซื้อตั๋ว หรือเติมน้ำมัน หรือจ่ายค่าที่พัก เราก็สามารถนำงบประมาณที่เราประหยัดได้นั้นมาใช้ในการซื้อสินค้า ซื้ออาหาร หรือจ่ายเพื่อกิจกรรมใหม่ (หรือแม้กระทั่ง พักในที่พักใกล้บ้านได้มากขึ้น) ซึ่งแปลว่า เงินที่เราจับจ่ายใช้สอยในการท่องเที่ยวยังที่ไกลๆ และส่วนหนึ่งรั่วไหลไปกับสินค้านำเข้า (เช่น น้ำมัน) ก็จะสามารถไปใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น ด้วยการซื้อสินค้าที่ผลิตจากการสร้างสรรค์ของคนและวัสดุในท้องถิ่นได้มากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวภายนอก ที่มักจะมีการเดินทางมาเป็นฤดูกาล และทำให้เกิดช่วงไฮช่วงโลว์ของวงการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวใกล้บ้านจะมาช่วยเติมการขาดหายไปของนักท่องเที่ยวภายนอกในช่วงโลว์ และทำให้สมดุลของการท่องเที่ยวในแต่ละพื้นที่ดีขึ้น
Staycation ช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม
หลายคนอาจลืมไปว่า การท่องเที่ยวก็เป็นต้นเหตุหนึ่งของผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ (ก) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษจากการเดินทาง (สูงสุดเมื่อเทียบต่อกิโลเมตรต่อคนคือเครื่องบิน รองมาคือรถยนต์ส่วนตัว) และ (ข) การทิ้งขยะ เนื่องจากในฐานะนักท่องเที่ยว เรามักจำเป็นต้องบริโภคอาหารและสินค้าต่างๆ ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถจัดการขยะได้ดีนัก (เช่น ไม่มีภาชนะที่ใช้ประจำ/ใช้ซ้ำ หรือเร่งรีบกับการเดินทาง หรือผู้คนหนาแน่น หรือไม่สะดวกในการแยกขยะเหมือนที่ทำในบ้านของตนเอง)
เพราะฉะนั้น การเที่ยวใกล้บ้านจึงช่วยให้ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก จากการประหยัดระยะทางในการเดินทาง หรือเราอาจเปลี่ยนโหมดการเดินทางโดยใช้รถจักรยาน/เดิน/ขนส่งสาธารณะได้สะดวกขึ้น ขณะเดียวกัน เราก็น่าจะวางแผนแยก/จัดการขยะได้ง่ายขึ้น ซึ่งแปลว่า เราน่าจะลดปริมาณขยะลงได้ด้วย
Staycation ช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ทางสังคม
แต่หลายคนอาจยังลังเลใจเพราะคิดว่าการ Staycation คือการท่องเที่ยวแบบซ้ำๆ เดิม ไปที่เดิมที่เคยไป จริงๆ แล้วตรงกันข้ามเลย Staycation ชวนให้เราหาประสบการณ์ใหม่ๆ ใกล้ตัว ชวนให้เรารู้จักคนใหม่ๆ ที่อาจอยู่ในอำเภอ หรือจังหวัดเดียวกัน หรืออาจจะกล่าวง่ายๆ ชวนให้เรามองในสิ่งและในคนที่เราเคยมองข้ามไป ตอนที่เราอยากไปเที่ยวไกลๆ
การรู้จักกับผู้คนที่อยู่ใกล้ๆ ในจังหวัดของเราเอง (หรือใกล้เคียง) มักเปิดโอกาสให้สามารถพัฒนาเป็นสายสัมพันธ์ระยะยาว (เพราะมาได้บ่อย และอาจทำกิจกรรม/ธุรกิจร่วมกัน) หรือแนะนำให้เพื่อนๆ คนอื่นๆ มาได้ (แบบมาเที่ยวบ้าน/จังหวัดเราสิ) และที่สำคัญยังช่วยให้เกิดความรักและความภาคภูมิใจในท้องถิ่น (เพราะมีอะไรดีๆ แบบที่ไม่เคยทราบมาก่อน) อีกด้วย
ปีใหม่นี้มาเที่ยวเมืองนนท์กัน
เพื่อให้ทุกท่านนึกภาพออกชัดเจนขึ้น Think Forward Center และ พรรคก้าวไกล นนทบุรี จึงได้รวบรวมสถานที่และผู้คนน่าเที่ยวจุดใหม่ๆ ในจังหวัดนนทบุรี จังหวัดที่ผู้คนในกรุงเทพฯ และปริมณฑล (รวมถึงคนนนทบุเรี่ยนเอง) ให้ได้ไป staycation กันในช่วงปีใหม่ (สำหรับผู้ที่ไม่ได้ไปเที่ยวทางไกล) หรืออาจจะไปกันหลังจากนั้น โดยข้อมูลสถานที่ต่างๆ จะเริ่มเผยแพร่กันตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2566 จนถึง 2 มกราคม 2567 รับรองว่า ท่านจะนึกไม่ถึงว่า จังหวัดที่เราคุ้นเคยกลับมีสิ่งที่เราไม่คุ้นเคยให้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ อีกมากมาย
Think Forward Center จึงขอใช้โอกาสนี้สวัสดีปีใหม่ และขอเชิญชวนให้เพื่อนๆ ที่ไม่มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวไกลๆ ลองหาข้อมูลและหาโอกาสไปเที่ยวที่ใหม่ๆ ใกล้บ้าน และใกล้ใจของพวกเรากันครับ และขอให้ทุกท่านที่เดินทางทั้งใกล้และไกล ระมัดระวังและปลอดภัยในการเดินทางครับ
